สโมสร

กูแร็ก เริ่มเล่นอาชีพในทีมจากเมืองนือซา (ค.ศ. 2004 – ค.ศ. 2005) ซึ่งเขาได้เล่นกับพ่อของเขา จากนั้นเขาใช้เวลา 3 ปีเล่นให้กับสโมสรซักซาแกนแจชึน-กอชแล (ค.ศ. 2005 – ค.ศ. 2008) ในปลุสลีกา

ในปี ค.ศ. 2008 เขาย้ายไปสโมสรแปกีแยแอ สกราแบวคาตุฟ หนึ่งในทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในปลุสลีกา ประเทศโปแลนด์ ซึ่งเขาได้เป็นผู้เล่นคนสำคัญอย่างรวดเร็ว ร่วมกับสโมสรแปกีแยแอ สกรา เขาได้รับรางวัลชนะเลิศโปลิชแชมเปียนชิพ 3 สมัย ได้แก่ในฤดูกาล 2008/09, 2009/10 และ 2010/11 และได้รับรางวัลรองชนะเลิศในฤดูกาล 2011/12 เขาได้รับรางวัลชนะเลิศโปลิชคัพ 3 สมัย ในฤดูกาล 2009, 2011 และ 2012 นอกจากนี้เขายังได้ 2 เหรียญเงินจากชิงแชมป์สโมสรโลก ในปี 2009 และ 2010 เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ. 2012 สโมสรแปกีแยแอ สกรา ได้รับรางวัลเหรียญเงินจากการแข่งขันซีอีวีแชมเปียนส์ลีก หลังจากที่พ่ายให้กับสโมสรเซนิตคาซาน ในรอบชิงชนะเลิศที่ วูช, ประเทศโปแลนด์ นอกจากนี้กูแร็กยังได้รับรางวัล ตัวตบยอดเยี่ยม จากการแข่งขันซีอีวีแชมเปียนส์ลีก 2011/12

หลังจากที่ฤดูกาล 2011/12 เขาได้ออกจากสโมสรแปกีแยแอ สกราแบวคาตุฟ และเซ็นสัญญากับสโมสรวอลเลย์บอลดีนาโมมอสโก ในประเทศรัสเซีย[4] แต่เนื่องจากเขาได้รับบาดเจ็บจึงไม่สามารถที่จะร่วมเล่นให้กับสโมสรใหม่ได้

หลังจากหนึ่งฤดูกาลในประเทศรัสเซีย กูแร็กย้ายไปสโมสรลูเบบันกามาเชราตาในประเทศอิตาลี เขาได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะผู้เล่นของสโมสรลูเบบันกามาเชราตา เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ค.ศ. 2013[5] ในฤดูกาล 2013/14 ทีมของเขาได้รับรางวัลชนะเลิศอิตาเลียนแชมเปียนชิพ ในรอบสุดท้ายโดยพบกับเซอร์เซฟตีเปรูจา[6][7][8] เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ. 2014 สโมสรลูเบบันกามาเชราตา รวมถึงกูแร็ก ได้รับรางวัลชนะเลิศอิตาเลียนซูเปอร์คัพ เอาเอาชนะเลิศสโมสรกอปราเอลีปิอาเซนซา (3–2)[9]

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 เขาได้ลงนาม 1+1 และทำสัญญากับอัสเซตซอแรซอเวียเชชูฟ[10] หลังจากได้เหรียญเงินในการแข่งขันโปลิชแชมเปียนชิพ เขาได้ออกจากสโมสรแรซอเวีย และเซ็นสัญญากับสโมสรในประเทศญี่ปุ่น เจที ธันเดอร์ ฮิโระชิมะ

ทีมชาติ

กูแร็ก อยู่ในทีมชาติโปแลนด์เมื่อทีมชาติโปแลนด์ได้รับรางวัลเหรียญทองชิงแชมป์ยุโรป 2009[11] เมื่อวันที่ 14 กันยายน ค.ศ. 2009 เขาได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ (Knight's Cross of Polonia Restituta)[12] เขาได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์จากนายกรัฐมนตรีประเทศโปแลนด์ ดอนัลด์ ตูสก์ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ค.ศ. 2011 กูแร็กกับทีมชาติเขาได้รับเหรียญรางวัลเหรียญแรกจากการแข่งขันเวิลด์ลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศโปแลนด์ โดยพวกเขาได้รับรางวัลเหรียญทองแดงหลังจากที่เอาชนะทีมชาติอาร์เจนตินา นอกจากนี้กูแร็กยังได้รับรางวัล ทำคะแนนสูงสุด ของการแข่งขันรอบสุดท้าย[13] ต่อมาทีมชาติโปแลนด์ ได้รับเหรียญทองแดงจากชิงแชมป์ยุโรป 2011 กูแร็กเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมตลอดการแข่งขันและทีมชาติโปแลนด์ได้รับเหรียญที่สองในปี 2011 - เหรียญทองแดงหลังจากที่ชนะการแข่งขันกับทีมชาติรัสเซีย ในการแข่งขันครั้งนี้กูแร็กได้รับรางวัลบุคคลถึง 2 รางวัลในปีนี้คือ เสิร์ฟยอดเยี่ยม[14] ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2011 แม้ว่ากูแร็กจะได้รับบาดเจ็บ แต่เขาได้ไปเข้าร่วมการแข่งขันเวิลด์คัพ และช่วยให้ทีมได้รับเหรียญเงิน และผ่านการคัดเลือกสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน[15] เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ค.ศ. 2012 ทีมโปแลนด์ได้รับเหรียญทองจากการแข่งขันเวิลด์ลีก 2012 กูแร็กได้รับรางวัล ผู้เล่นทรงคุณค่า[16][17] กูแร็ก เป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญของทีมโปแลนด์ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกลอนดอน 2012 แต่ทีมชาติโปแลนด์แพ้ทีมชาติรัสเซียในรอบก่อนรองชนะเลิศและทำให้ถูกตัดออกจากการแข่งขัน

ในปี ค.ศ. 2014 เขาเป็นสมาชิกคนหนึ่งของทีมชาติโปแลนด์ในช่วงวอลเลย์บอลชายชิงแชมป์ยุโรป 2015 รอบคัดเลือก แต่แล้วก็ไม่ได้รับโอกาสที่จะการแข่งขันในเวิลด์ลีก เขาไม่ได้มีรายชื่ออยู่ในทีมชาติโปแลนด์ในการแข่งขันชิงแชมป์โลกที่จัดขึ้นใน ประเทศโปแลนด์[18]

หลังจากที่หยุดพัก เขาได้กลับมาเล่นให้กับทีมชาติ เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 ในการแข่งขันรอบคัดเลือกเวิลด์ลีก กับทีมชาติรัสเซีย โดยชนะด้วยคะแนน 3–0[19] เขาเป็นผู้เล่นที่ทำคะแนนสูงสุดของการแข่งขัน (15 คะแนน) ในปี ค.ศ. 2016 กูแร็กได้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนที่รีโอเดจาเนโร[20]